ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรมโรงงานฯ สานความสัมพันธ์ รัฐ ชุมชนและโรงงาน ผนึกพลัง “รักษ์น้ำ” แก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย


กรุงเทพฯ 29 กุมภาพันธ์ 2559  – กรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่สานสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีกับภาคประชาชน ในพื้นที่รอบคลองประเวศบุรีรมย์ จากกรณีได้รับการร้องเรียนปัญหาน้ำเน่าเสียจากชุมชนวัดสังฆราชา เขตลาดกะบัง บริเวณรอบคลองประเวศบุรีรมย์ เมื่อปลายปี 2558 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีบ้านเรือนกว่า 1,000 ครัวเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม 47 โรง ซึ่งกรมโรงงานฯ ไม่นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาร้องเรียนมลพิษน้ำ จึงได้จัดโครงการ สานเสาวนา รักษ์น้ำ” กับ กรอ. ชุมชน และโรงงาน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับการจัดการน้ำเสีย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมระหว่างภาครัฐ ชุมชน และผู้ประกอบการโรงงานอย่างยั่งยืน โดยงานดังกล่าว มี ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสุชิน คุมมณี ประธานชุมชนวัดสังฆราชา ร่วมเสวนา งานจัดขึ้นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559นี้ ณ ศาลาธรรมสุนทร วัดลานบุญ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 

 

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ​ เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา กรมโรงงานฯ ได้รับการร้องเรียนปัญหาน้ำเน่าเสียจากชุมชนวัดสังฆราชา บริเวณรอบคลองประเวศบุรีรมย์ เขตลาดกระบัง ทางกรมโรงงานฯ ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจปัญหาน้ำเน่าเสีย เมื่อตรวจวัดค่าออกซิเจนละลายน้ำ (ค่าดีโอ) พบว่าน้อยกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร (ค่าดีโอต่ำกว่า 2 มิลลิกรัมต่อลิตร จัดว่าน้ำในแหล่งน้ำนั้นเน่าเสีย แต่น้ำสะอาดทั่วไปจะมีค่าดีโอประมาณ 4-7 มิลลิกรัมต่อลิตร) อีกทั้งมีคลองสาขามาบรรจบหลายสาย เช่น คลองหนึ่ง คลองสองต้นนุ่น ลองตานวย และมีการกั้นด้วยประตูระบายน้ำก่อนระบายสู่แม่น้ำบางปะกง ซึ่งพบว่าน้ำในคลองมีกลิ่นเหม็นทั่วพื้นที่ ทั้งนี้ ในพื้นที่ดังกล่าว มีบ้านเรือนอยู่โดยรอบกว่า 1,000 หลังคาเรือน และมีโรงงานประมาณ 47 โรง อาทิ โรงงานผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ โรงงานผลิตโลหะ โรงงานผลิตน้ำยาปรับผ้านุ่ม โรงงานซักอบรีด เป็นต้น ซึ่งกรมโรงงานฯ มั่นใจได้กำกับดูแลการบำบัดน้ำทิ้งทุกโรงงาน และไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงมีการดำเนินงานส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานอย่างสม่ำเสมอ

 

ดร.พสุ กล่าวต่อว่า กรมโรงงานฯ โดยสำนักเทคโนโลยีน้ำและสิ่งแวดล้อมโรงงาน ได้จัดโครงการ สานเสาวนา รักษ์น้ำ” ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก 3 ฝ่าย คือ กรอ. ชุมชน และโรงงาน โดยให้ความรู้กับชุมชนและโรงงานด้านการจัดการน้ำเสีย และกำกับดูแลมลพิษน้ำ ควบคู่ไปด้วย เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านการตรวจสอบและกำกับดูแลโรงงานด้านน้ำทิ้ง และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชน เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 47 แห่ง เป็นแหล่งสร้างรายได้และกระจายรายได้ให้แก่คนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการอยู่ร่วม กันแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม งานสานเสาวนา รักษ์น้ำ” ระหว่าง กรอ. ชุมชน และโรงงาน ถือเป็นต้นแบบ ที่ดีของความร่วมมือ ระหว่าง รัฐ ชุมชน และผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่อุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการจัดการน้ำเสียและร่วมใจกันรักษาลำคลองจนเกิดความมั่นใจและลดความวิตกกังวล เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการมลพิษน้ำ โดยกรมโรงงานฯ จะติดตามการแก้ไขดำเนินงานและเร่งมาตรการป้องกันในอนาคต

 

จากข้อมูลพบว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำเสียเกิดได้หลายสาเหตุทั้งการทิ้งขยะจากครัวเรือน หรือจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ลักลอบปล่อยน้ำเสีย ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะแก่แหล่งน้ำธรรมชาติและทำให้เกิดความสูญเสียต่อระบบนิเวศน์ ปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมีประมาณร้อยละ 80-90 ของปริมาณน้ำที่แต่ละคนใช้ (ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำในกิจกรรมประจำวันคือ 200 ลิตรต่อคนต่อวัน) หรือประมาณ 9.6 ล้าน ลบ.. ต่อวันของทั้งประเทศ โดยคาดว่าปี 2560 จะมีปริมาณน้ำเสียทั้งหมด 11.2 ล้าน ลบ.. ต่อวันของทั้งประเทศ (ข้อมูลคาดการณ์จำวนประชากรปี 2560 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ) ซึ่งหากจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำเสียก็อาจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของกรมโรงงานฯ มีการกำกับตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายกรมโรงงานฯ สำหรับการจัดการมลพิษน้ำของโรงงาน คือ การควบคุมน้ำเสียตามมาตรฐานน้ำทิ้งโรงงาน โดยติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณตรวจจับน้ำเสีย และจัดเตรียมบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน รวมถึง การให้ความรู้ ความเข้าใจ ด้านการบำบัดน้ำเสียแก่โรงงานตลอดจนตรวจสอบดูแลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และดำเนินการกับโรงงานที่มีน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานน้ำทิ้ง ดร. พสุ กล่าวสรุป

 

ทั้งนี้ งานเสวนาดังกล่าว มี ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมคิด วงศ์ไชยสุวรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนายสุชิน คุมมณี ประธานชุมชนวัดสังฆราชา ณ ศาลาธรรมสุนทร วัดลานบุญ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ สำหรับประชาชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4014-17 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.th หรืออีเมล์ pr@diw.mail.go.th




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...