ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พม. จัดโครงการ “ยุติการทิ้งเด็ก” ภายใต้แนวคิด ๓ ไม่ (ไม่เสียชีวิต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ทำลายโอกาส)

         พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดโครงการ "ยุติการทิ้งเด็ก” ภายใต้แนวคิด ๓ ไม่ (ไม่เสียชีวิต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ทำลายโอกาส) พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมการเดินรณรงค์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ "ยุติการทิ้งเด็ก” โดยมีผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การค้า Siam Square One ลานเชื่อม BTS เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ  

          พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งเป็นอย่างยิ่ง โดยพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบหมายให้เป็นนโยบายสำคัญของการดำเนินงานทุกกรมในสังกัดของกระทรวงฯ และเน้นย้ำให้มีการดำเนินงานเชิง บูรณาการทั้งด้านป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง โดยมีการจัดทำร่างยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น การกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมบทบาทครอบครัวและชุมชนในการสร้างสัมพันธภาพและสื่อสารด้านสุขภาวะทางเพศของวัยรุ่น โดยผ่านการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชนเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักด้านเด็กและเยาวชน ได้ดำเนินงานโครงการกิจกรรมต่าง ๆ มาโดยตลอด ทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปัญหา การทอดทิ้งเด็กในสังคม อย่างไรก็ตามปัญหาและสถานการณ์เด็กถูกทอดทิ้งในสังคมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูล เด็กถูกทอดทิ้งที่ถูกส่งไปเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์เด็กในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั้ง ๘ แห่ง ในระหว่าง ปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๘ มีจำนวน ๖๖๒ คน ซึ่งยังไม่ได้รวมสถิติเด็กที่ถูกทอดทิ้งแล้วเสียชีวิตจากที่สาธารณะต่าง ๆ 
 
           พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) จึงจัดโครงการ "ยุติการทิ้งเด็ก” ภายใต้แนวคิด "๓ไม่” คือ "ไม่เสียชีวิต” หมายถึง เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตรอด ตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาสิทธิเด็ก "ไม่ผิดกฎหมาย” หมายถึง การทอดทิ้งเด็กเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ และกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๖ และ ๓๐๗ "ไม่ทำลายโอกาส” หมายถึง การทอดทิ้งเด็กทำให้เด็กสูญเสียโอกาสต่าง ๆ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคมหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง ร่วมมือกันสอดส่องดูแลบุตรหลานของท่านโดยเฉพาะที่ยังอยู่ในวัยรุ่น ให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับค่านิยมที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อันนำไปสู่ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม 
การทำแท้ง และการทิ้งเด็กในที่สุด 
 
          พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนเด็กถูกทอดทิ้งในสังคม และรณรงค์สร้างการรับรู้ ความเข้าใจในการแก้ปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งให้ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเสวนาในหัวข้อ "รักเป็น คิดเป็น ยุติการทิ้งเด็ก” ซึ่งร่วมเสวนาโดย นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศิลปินวัยรุ่น นิทรรศการ แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์เด็กถูกทอดทิ้งในสังคม การดำเนินงานของกระทรวงฯ เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง (Road Map) และข้อมูลการให้ความช่วยเหลือกรณีประชาชนประสบปัญหาและช่องทางการเข้าถึงบริการของกระทรวง ฯ รวมทั้งมีการเดินรณรงค์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ "ยุติการทิ้งเด็ก” นอกจากนี้ ในระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ จะดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ เพื่อประชาชนได้ตระหนักและรับรู้ถึงข้อมูลดังกล่าวต่อไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...