ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กสอ. ดึงเอกชนรายใหญ่ ช่วยสตาร์ทอัพไทย เปิด “แองเจิ้ลฟัน” อัดฉีดเงินตั้งธุรกิจใหม่ สูงสุด 1 ล้านบาท


กรุงเทพฯ 25 มีนาคม 2559 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย เปิดกิจกรรม Angel Fund for Startup Entrepreneur Project เพื่อสนับสนุนเงินร่วมลงทุนในการจัดตั้งธุรกิจสูงสุด 1 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพ ภายใต้กรอบแนวคิด “SMARTER GREENER TOGETHER” 



ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ. เล็งเห็นถึงความต้องการของผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพ (Start upซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่กำลังเริ่มต้นประกอบธุรกิจ และมองหาโอกาสทางการตลาด กสอ. จึงได้จัดกิจกรรม Plan to Biz ภายใต้โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (NEC) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนเงินร่วมลงทุนในการจัดตั้งธุรกิจ หรือ Angel Fund for Startup Entrepreneur Project โดยจะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีแผนการลงทุนที่มีความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธุรกิจได้จริง และผ่านการคัดเลือกโดยการนำเสนอแผนธุรกิจให้แก่ผู้สนับสนุนเงินลงทุน ภายใต้กรอบแนวคิด “SMARTER GREENER TOGETHER” โดยในปี 2559 กสอ. ได้จับมือกับบริษัท เดลต้า  อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อนำร่องกิจกรรมการสนับสนุนเงินทุนดังกล่าว

ดร.สมชาย หาญหิรัญ กล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดกิจกรรม ผู้ที่นำเสนอแผนการลงทุนและผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย   จะได้เข้าร่วม “Business Camp” เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการพัฒนาแนวความคิด การจัดทำแบบจำลองโมเดลธุรกิจ ทักษะด้านการเงิน และสร้างความเป็นผู้ประกอบการ รวมไปถึงเทคนิคในการนำเสนอแผนการลงทุนด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีความแตกต่างจากโครงการสนับสนุนเงินทุนอื่น คือผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอ (Pitching) แผนการลงทุนที่มีความเป็นไปได้ และนำไปใช้ในการจัดตั้งธุรกิจได้จริง โดย กสอ. และบริษัทผู้สนับสนุนเงินทุนจะพิจารณาคัดเลือกแผนธุรกิจที่มีความน่าสนใจและเป็นไปได้สูงสุด โดยจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนสูงถึง 70% ของจำนวนเงินลงทุนที่ใช้ในการจัดตั้งธุรกิจ หรือไม่เกิน 1 ล้านบาท ภายใต้งบประมาณเงินทุนสนับสนุนรวมกว่า 4 ล้านบาท  ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้เจ้าของแนวคิดธุรกิจสามารถเริ่มจัดตั้งธุรกิจได้ภายใน 3 เดือน  ซึ่งทาง กสอ. จะคอยให้คำปรึกษาแนะนำและติดตามประเมินผลการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ เพื่อให้การจัดตั้งธุรกิจสัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

กระแสสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และเกิดผู้ประกอบการรายใหม่    หรือสตาร์ทอัพขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดจากการวางแผนเพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในแต่ละปี กสอ. มีแผนพัฒนากลุ่มสตาร์ทอัพให้เกิดขึ้นประมาณ 1,500 ราย แต่อุปสรรคที่สำคัญของผู้ประกอบการกลุ่มนี้    คือ ปัญหาด้านเงินทุนในการจัดตั้งธุรกิจหรือขยายกิจการ เนื่องจาก ผู้ประกอบการเหล่านี้ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของ การประกอบธุรกิจ ดังนั้น การมีแหล่งเงินทุนที่สามารถช่วยผลักดันให้เกิดธุรกิจได้จริง และสามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การส่งเสริมให้กลุ่มสตาร์ทอัพเหล่านี้มีศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้ง ได้รับการพัฒนาเพื่อต่อยอดให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น ย่อมเป็นผลดี  ที่จะเกิดขึ้นต่อภาพรวมของประเทศต่อไปได้ ดร.สมชาย หาญหิรัญ กล่าวทิ้งท้าย 



ด้าน นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีการวางแผนทางธุรกิจที่ดี แต่ยังขาดเงินทุนสนับสนุนในการจัดตั้งธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง จึงร่วมมือกับ กสอ. เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหลักที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายใหม่เกิดการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจให้เป็นจริงมีศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้คนว่างงานที่มีแนวคิดธุรกิจใหม่ ๆ ได้มีโอกาสนำเสนอแผนโครงการลงทุนเพื่อจัดตั้งธุรกิจและสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอัตราคนว่างงานที่มีสูงถึง 3.1 แสนคนในปีนี้ ได้อีกทางหนึ่ง 

สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัพหรือคนที่สนใจที่ทำธุรกิจ สามารถสมัครข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 เมษายน 2559 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 โทรศัพท์ 0-2202-45740-2354-3171 อีเมล plantobiz2016@gmail.com หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

###



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...