ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระทรวงแรงงานร่วมสสส. หนุนภาคเอกชนขับเคลื่อน“พลังคนพิการ: หุ้นส่วนธุรกิจสร้างสรรค์สังคม” (Declaration of Welcome Disability) นำร่องในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย

กระทรวงแรงงาน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และWorkability Thailand ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคธุรกิจและการศึกษาชั้นนำริเริ่มโครงการประกาศเจตนารมณ์หลักการ พลังคนพิการ: หุ้นส่วนธุรกิจสร้างสรรค์สังคม” (Declaration of Welcome Disabilityเพื่อรณรงค์การสร้างเจตคติและความตระหนักรู้เชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการในฐานะพลเมืองของสังคมที่มีความสามารถสร้างสรรค์คุณค่าต่อสังคม เป็นการสร้างโอกาสให้คนพิการเป็นพลังและหุ้นส่วนทางสังคม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการมีงานทำของคนพิกา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล คนไทยทุกคนต้องมีงานทำ ที่หมายรวมถึงคนพิการและผู้ด้อยโอกาสด้วย โดยการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชนในการสนับสนุนโอกาสในการมีงานทำ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพคนพิการ ทัศนคติและการปรับจัดสถานประกอบการให้พร้อมสำหรับการทำงานของคนพิการในสถานประกอบการตลอดจนการส่งเสริมการซื้อขายสินค้าบริการเพื่อสร้างงานและรายได้แก่กลุ่มคนพิการอีกทางหนึ่ง นอกจากการรณรงค์จนเกิดทัศนคติและวัฒนธรรมที่เปิดรับ ยกย่อง และชื่นชมศักยภาพของคนพิการในประเทศไทยแล้ว Workability Thailand มุ่งต่อยอดการใช้ตราสัญลักษณ์ในการรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์จากคนพิการที่ผ่านการคัดเลือกและผ่านมาตรฐานทัดเทียมกับสินค้าบริการในตลาดเศรษฐกิจ หวังตลาดผู้ซื้อตรง (B2B) จากการสนับสนุนและร่วมมือกับภาคเอกชน ภายใต้แบรนด์ Welcome Disability Mark หรือ Well-D Mark โดยได้รับการรับรองจาก Workability Asia ซึ่งเป็นองค์กรเครือข่ายส่งเสริมความสามารถในการทำงานของคนพิการในภูมิภาคเอเซีย

พลังคนพิการ: หุ้นส่วนธุรกิจสร้างสรรค์สังคม(The Memorandum of the Public Private Partnership towards Deceleration of Welcome Disabilityนำโดยพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นสักขีพยาน พร้อมกับนายนคร ศิลปอาชาปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในการแถลงความร่วมมือร่วมกับกลุ่มสภา/สมาคมธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และสมาคมสภามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โดยมีความมุ่งหมายที่จะรณรงค์การปลูกฝังนโยบายของการยอมรับความแตกต่างและความเท่าเทียม การไม่กีดกันคนพิการภายในองค์กร และการขยายสู่การดูแลลูกค้าและสังคมภายนอกอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม นับเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์อันดีและร่วมรณรงค์สังคมไทยให้ร่วมเป็นหนึ่งกำลังในการเปลี่ยนแปลง คนพิการจากภาระให้เป็นพลังโดยการเสริมหนุนกลไกตัวกลางจากสภา/สมาคมธุรกิจในการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคม สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของคนพิการอย่างต่อเนื่องและขยายวงกว้างในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย โดยการสนับสนุนของภาคเอกชนอันสอดคล้องกับความรับผิดชอบต่อสังคมและแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าร่วมและการเชื่อมโยงทักษะความสามารถในเชิงธุรกิจสู่การพัฒนาและยกระดับคนพิการ ในการเสริมหนุนกลไกตัวกลางจากภาคเอกชนในการสร้างทักษะ สร้างงาน สร้างโอกาสทาธุรกิจให้แก่คนพิการและขยายผลได้อย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์ร่วมตลอดจนสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและโอกาสทางธุรกิจขึ้น (Win-Win Approach)โดยมีเจตนารมณ์ขับเคลื่อนการเชื่อมโยงการทำงานของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคนพิการ อย่างบูรณาการ ตลอดจนรณรงค์ให้ภาคเอกชนอื่นๆ ร่วมส่งเสริมการสร้างโอกาสในการมีงานทำแก่คนพิการมากกว่าการให้แบบสังคมสงเคราะห์ เมื่อเอกชนเข้ามามากขึ้นกระบวนการสร้างความตระหนักสังคมและสร้างทัศนคติเชิงบวกในการเปิดโอกาสแก่คนพิการในสังคมไทยก็จะพัฒนาขึ้นต่อไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

สถาบันอาหาร จัดสัมมนา “ทิศทางการบริโภคอาหารแปรรูปไทยในอนาคต”

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร  เข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง  "นวัตกรรม หรือธรรมชาติ ”  ทิศทางการบริโภคอาหารแปรรูปไทยในอนาคต   ในวันพฤหัสบดีที่  14  กันยายน  2560  เวลา  0 8.30   -   16.00   น. ณ ห้องจูเนียร์ บอลรูม โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์   สุขุมวิท โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดธุรกิจอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ กิจกรรมสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้น ภายใต้โครงการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนผู้ประกอบการอาหารเพื่ออุตสาหกรรมอาหารอนาคต (Future Food)  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาให้กับผู้ประกอบการท ี่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหาร  เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และเป็นประโยชน์ในการพัฒนา สร้างโอกาสทางการค้าและการตลาดให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต   โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น   สามารถ ดูรายละเอียดและ ลงทะเบียนตอบรับการเข้าร่วมได้ ที่ http://fic.nfi.or.th  หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่ คุณกนกวรรณ  ฝ่ายวิจัยและข้อมูล  โทร .   0-2422 86...

กรมส่งเสริมการค้าฯเผยโอมานห้ามนำเข้าไก่จาก 7 ประเทศ ชี้ไก่ไทยได้รับอานิสงค์จากความนิยมในคุณภาพ-มาตรฐานการผลิต ส่งออกไก่ภาพรวม 5 เดือนเพิ่มขึ้น 2.4 แสนตัน

นาง นันท วัลย์  ศกุนต นาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการเจาะตลาดเพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้าไทยตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริ กัล ยะ รมว.พาณิชย์ว่า  กระทรวงเกษตรและประมง ประเทศโอมานได้ออกประกาศมติรัฐมนตรีห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่แข็ง ไก่มีชีวิต จากประเทศเวียดนาม แคนาดา ตุรกี สหรัฐฯ  บูร์ กิ นาฟา โซ ไนเจอร์ และไนจีเรียจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกการห้ามนำเข้าอย่างเป็นทางการ  ​ ทั้งนี้ โอมานนำเข้าไก่สด จากทั่วโลก ในปี 57 มูลค่า 198.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  หรือ   ลดลง 12 %  เมื่อเทียบ ก่อน   โดย โอมานนำเข้า ไก่สดแช่แข็งจากไทยมูลค่า 16.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าปี 58 จะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ปีนี้ ไทยส่งออกไก่แช่แข็งไปโอมานแล้ว 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ​ สำหรับการส่ ง ออก ไก ่ สดแช ่ เย็น แช ่ แข็ง และแปรรูป ของไทยไปทั่วโลก   กรมฯตั้ง เป ้ าหมายการส ่ง ออกป ีนี้ ขยายตัว 5 %  คิดเป ็ นมูลค ่ าประมาณ   2,417 ล ้ านเหรียญสหรัฐ ฯ  ในช่วง 5 เดือนแรก ส่งออกไปแล้ว   957  ล้านเหร...