ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯเสด็จเป็นประธานในงานไทยไนท์ 2015 ณ เมืองคานส์ ฝรั่งเศส พาณิชย์นำ 7 บริษัทไทยร่วมเปิดเจรจาธุรกิจ วางหมากเป็นฮับการลงทุน-หนังอาเซียน

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปเป็นประธานในงานส่งเสริมธุรกิจบันเทิง 2558 (ไทยไนท์ 2015) ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ณ ห้องซาลอน ครัวแซทท์ โรงแรม มาเจสติก แบริแอร์ โดยมี นางอภิรดี ตันตราภรณ์รมช.พาณิชย์ , นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยภาคเอกชน สื่อมวลชน รวมทั้งบุคคลในวงการภาพยนตร์นานาชาติ เข้าร่วมรับเสด็จโดยพร้อมเพรียงกัน 

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมบันเทิงและภาพยนตร์ของไทยก้าวสู่ระดับแนวหน้าของโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จากความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ไทยพร้อมที่จะประกาศจุดยืนในการเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์(เนื้อหา) และศูนย์กลางด้านโปรดักชั(การผลิตงาน) โดยงานไทยไนท์จะเป็นงานที่ผลักดันให้เกิดความร่วมมือกับนานาชาติมากยิ่งขึ้น

ในปีที่ผ่านมา ไทยมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์มีมูลค่ากว่า 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติในไทมีมูลค่าสูงถึง 58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รมช.พาณิชย์ กล่าวและว่า ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ 58นี้ จัดเป็นครั้งที่ 68 ระหว่างวันที่ 13 – 24 พฤษภาคม 2558 มีภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าฉายและประกวดจำนวน 53 เรื่องจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ ภาพยนตร์เรื่อง รักที่ขอนแก่น(Cemetery of Splendour) ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับชาวไทย ที่ได้รับคัดเลือกเข้าฉาย ใน Un Certain Regard หรือสายภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง 

สำหรับในตลาดซื้อขายภาพยนตร์ภายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวน 7 บริษัท ได้แก่ เบนีโทน , เดอ วอร์เรนท์ พิคเจอร์,  ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ,  แฮนด์เมด  ดิสทริบิวชั่น , กันตนา กรุ๊ป  กลองชัย ภาพยนตร์ ละ โมโน ฟิล์ม ซึ่งปีนี้ได้สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยโดยการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย และผู้สร้าง ผู้ลงทุนจากต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 13 – 17 พฤษภาคม 2558มีบริษัทต่างชาติเข้าร่วมเจรจาธุรกิจจำนวนกว่า 40 ราย  

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) กล่าวว่า ภาพรวมตลาด

ปี 57 ธุรกิจภาพยนตร์มีมูลค่าตลาดรวมราว24,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตประมาณ 10% (ข้อมูลจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งไม่มีการจัดเก็บตัวเลขแยกเป็นการผลิต นำเข้าและส่งออก) ส่วนที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่      การรับจ้างผลิต การบริการโปรดักชั่น และ การตัดต่อ รวมทั้งบริการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย และขายลิขสิทธิ์ โดยมีเป้าหมายตลาดคือ อาเซียน เอเชียตะวันออก ยุโรป สหรัฐอเมริกา 

ทั้งนี้ไทยได้วางยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการ ด้านภาพยนตร์(Film)ไว้ เพื่อสร้างให้ไทยเป็นฐานการผลิตงาน/ฐานการลงทุนที่มีคุณภาพสูงของเอเชีย (Hub) และเป็นประตู (Gateway) สำหรับนักลงทุน/นักธุรกิจต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในภูมิภาค ,การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขานี้ ให้มีขีดความสามารถสูงในการคิดสร้างสรรค์ เพื่อผลิตผลงานคุณภาพตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ การขยายตลาดการส่งออกภาพยนตร์ไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Creative Content/ IP/ Brand ของไทยและสร้างศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย การเพิ่มความสัมพันธทางธุรกิจ/ขยายตลาดกับบริษัทต่างชาติ กระตุ้นการ Co-Production/Investmentเป็นต้น 

อย่างไรก็ตามหากขจัดอุปสรรคเหล่านี้ คาดว่าการค้าลงทุนจะเพิ่มมากขึ้น อาทิ การขาดหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบในภาพรวมและส่งเสริมอย่างครบวงจร    การขาดแหล่งเงินทุนในรูปแบบ Awards กองทุนให้เปล่าในรูปแบบต่างๆ รวมถึงกองทุนกู้ยืม ดอกเบี้ยต่ำ และการเข้าถึงกองทุนในต่างประเทศ (Global Fund)การขาดโอกาสในการขยายตลาดในต่างประเทศ ตลอดจนความร่วมมือในการสร้าง Content ใหม่ๆ ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างประเทศ การละเมิดลิขสิทธิ์ ขาดสิ่งจูงใจให้เข้ามาใช้บริการ/มาลงทุน/มาถ่ายทำในประเทศไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...