กระทรวงอุตฯ ยกทัพผู้ประกอบการ จัดงานใหญ่แห่งปี “Thailand Industry Expo 2015…มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี” ชวนผู้ประกอบการ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เปิดประตูการค้าสู่ตลาดโลก
กรุงเทพฯ 15 มิถุนายน 2558 - กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) แถลงข่าว การจัดงาน "Thailand Industry Expo 2015…มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" ชูแนวคิด "อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้า พัฒนาด้วยนวัตกรรม” เพื่อขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ด้านการพัฒนา SMEs และวิสาหกิจชุมชน เตรียมจัดทัพใหญ่ ผู้ประกอบการกว่า 1,400 ราย ร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าและของดีทั่วไทยในงานนี้ ตั้งแต่วันที่ 22-27 กันยายน 2558 เวลา 10.00–20.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้ามียอดใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานแถลงข่าวว่า จากความสำเร็จในการจัดงาน Thailand Industry Expo 2014 ในปีที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่าการจัดงานในลักษณะนี้ เป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน โดยเป็นเวทีสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทยในการแสดงศักยภาพ ความหลากหลายในเรื่องของสินค้าและบริการฝีมือคนไทย อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชนให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง ตลอดจนเป็นเวทีเผยแพร่ความรู้และพัฒนาทักษะในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ และจุดประกายให้แก่ผู้ที่สนใจสร้างอาชีพของตน จึงเป็นที่มาของการจัดงาน Thailand Industry Expo 2015…มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้า พัฒนาด้วยนวัตกรรม” เพื่อขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจของรัฐบาล ในการส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาพัฒนากระบวนการผลิต และการดำเนินงานขององค์กร
ที่สำคัญงานนี้เป็นงานยิ่งใหญ่ประกอบด้วย 3 พ. ได้แก่ พื้นที่ พันธมิตร และพลัง โดยจัดเต็มบนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร ของอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี เพียบพร้อมด้วยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ มากกว่า 70 ราย ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP จากทั่วประเทศ กว่า 1,300 ราย รวมมีผู้ประกอบการในงานนี้มากกว่า 1,400 ราย นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทย ต่างมาร่วมกันแสดงพลังความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็งมั่นคง นายจักรมณฑ์ กล่าว
ดร.อรรชกา สีบุญเรืองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวถึงกิจกรรมในงานว่า ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรกเป็นนิทรรศการและมหกรรมการแสดงสินค้า และส่วนที่สองเป็นการประชุมสัมมนา Workshop สำหรับผู้ประกอบการใหม่ หรือผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพ ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมบนเวทีให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าเยี่ยมชมงานตลอดงานอีกด้วย
สำหรับโซนนิทรรศการเด่นๆ ภายในงาน ได้แก่
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านความพร้อมของสถานที่ และการจัดสรรพื้นที่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ จนถึงขนาดเล็ก ทั้งกล่าวย้ำว่า นอกจากประชาชนที่มาร่วมงานจะได้จับจ่ายใช้ของดีจากผู้ประกอบการชั้นนำและ SMEs จากทั่วประเทศแล้ว งานนี้ยังเป็นเวทีสำคัญของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจ SMEs และ OTOP ในการต่อยอดธุรกิจ ผู้ประกอบการที่มาร่วมในงานนี้จะได้เห็นแนวทางการเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยของกระทรวงอุตสาหกรรม และการบริการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทย การประชุมสัมมนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ SMEs มากกว่า 100 หัวข้อสัมมนา ทั้งมีความหลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของทั้งผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ และผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นประกอบธุรกิจของตัวเอง
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดให้มี คลินิกอุตสาหกรรม สำหรับให้คำปรึกษาเฉพาะตัวแก่ผู้ประกอบการโรงงาน SMEs OTOP โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ เช่น ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ การเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการผลิต ตลอดจนการบริการทางการเงินจาก SMEs Bank และ บสย. และผู้ประกอบการจะมีโอกาสเข้าถึงการเชื่อมต่อพันธมิตรทางการค้าและการสร้าง เครือข่ายทางธุรกิจ เป็นต้น
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช กล่าวเพิ่มเติมว่างานThailand Industry Expo 2015 ถือเป็นการจัดงานปีที่ 2 ที่ผนึกกำลังความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน มาร่วมจัดแสดงผลงาน จัดเตรียมสินค้าดี มีคุณภาพมาจัดจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าดีของไทย และมีความภูมิใจในการเลือกใช้สินค้าไทย ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการให้มาร่วมในงานนี้ ซึ่งจะได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์องค์กร จำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ และ
ร่วมกันแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ที่พร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานไม่น้อยกว่า 300,000 คน และมียอดการใช้จ่ายในงาน ไม่ต่ำกว่า 500ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีความรู้มากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างธุรกิจ ทั้งจากการเข้าร่วมสัมมนา การอบรมฝึกอาชีพ และการมารับคำปรึกษาแนะนำจากคลินิกอุตสาหกรรม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น