ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กสอ. รุกอัพสวยบรรจุภัณฑ์ไทยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินค้าไทยและสินค้าโอทอปกว่า20%

กสอ. รุกอัพสวยบรรจุภัณฑ์ไทยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินค้าไทยและสินค้าโอทอปกว่า20%

• กสอ. เปิดตัวผู้ชนะ ThaiStar Packaging Awards 2015”เตรียมต่อยอด 
ส่งประกวดบรรจุภัณฑ์ในระดับเอเชียและระดับโลก (AsiaStarWorldStar Awards)

 

กรุงเทพฯ 18 มิถุนายน 2558 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรกระทรวงอุตสาหกรรม รุกสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้ไทย โดยเฉพาะสินค้าโอทอปให้เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไทยยอดเยี่ยม ภายใต้โครงการประกวดบรรจุภัณฑ์ไทย ประจำปี 2558 ThaiStarPackaging Awards 2015 ปีที่ 38 มุ่งสร้างศักยภาพบรรจุภัณฑ์โอทอปไทยให้สามารถทัดเทียมนานาประเทศ ภายใต้หัวข้อ “หลากหลายวัสดุบรรจุภัณฑ์” พร้อมเปิดตัว ผู้ชนะเลิศจาก4 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภทต้นแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่ายสำหรับสินค้าทั่วไปรางวัลชนะเลิศคือ ชื่อผลงานAssawaThaiChess โดย นายปฏิรัตน์ ศรีผิวจันทร์ จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี           2. ประเภทต้นแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งสำหรับสินค้าทั่วไป รางวัลชนะเลิศคือชื่อผลงาน Jarong (Theceramic bowlset) โดยนายชุติเทพ ใจดี และ นายนิธิศ เลาหรัตนาหิรัญ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ 3.ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย สำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายแล้วในท้องตลาด มีผู้ประกอบการที่ได้รับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรจำนวน10รางวัล และ 4.ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง สำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายแล้วในท้องตลาดมีผู้ประกอบการได้รับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรจำนวน 10 รางวัล สำหรับผู้ได้รับรางวัลจะได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าประกวดบรรจุภัณฑ์ในระดับเอเชีย (AsiaStarAwards) และระดับโลก (WorldStar Awards)ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน คิดเป็นเงินปีละ 6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษของอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อการเติบโตอย่างมีศักยภาพและเข้มแข็งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยจะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าและผลิตภัณฑ์โอทอถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับประเทศไทย โดยในแต่ละปีมียอดจำหน่ายรวมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สูงถึงปีละกว่า 80,000 ล้านบาทโดยที่ผ่านมา กสอ.มีกิจกรรมเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการ OTOP ได้เห็นถึงช่องทางในการพัฒนายกระดับสินค้าให้เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ชุมชนสร้างคุณภาพและความโดดเด่นสวยงามเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศให้เติบโตมากขึ้น โดยกลยุทธ์การพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์โอทอป อับดับต้นๆคือ การปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากรูปแบบและสิ่งที่ปรากฏบนบรรจุภัณฑ์จะสามารถสื่อสารข้อมูลของผลิตภัณฑ์และดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้ รวมทั้งสามารถสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยให้ผู้บริโภคยินดีจ่ายมากขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10-15 ทั้งนี้หากสามารถส่งเสริมให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ได้ ก็อาจส่งผลต่อความเติบโตทางเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกือบทุกสาขา และมีผลต่อการแข่งขันทางธุรกิจในตลาดโลก ซึ่งนอกจากผู้ผลิตสินค้าจะต้องคำนึงถึงคุณภาพสินค้า ความปลอดภัยของผลผลิตแล้ว บรรจุภัณฑ์ก็เป็นองค์ประกอบร่วมในการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์เพราะถือว่าเป็นต้นทุนการผลิต (Production Cost) ซึ่งสามารถสร้างผลกำไรให้แก่ผู้ประกอบการได้ 

นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่ากสอ.ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงเดินหน้าจัดโครงการประกวดบรรจุภัณฑ์ไทยประจำปี 2558“ThaiStarPackagingAwards2015 อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 38โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษานักออกแบบและผู้ประกอบการด้านบรรจุภัณฑ์ ได้มีเวทีในการแสดงความรู้ความสามารถในการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยในปี 2558 มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวนทั้งสิ้น 469 ผลงานซึ่งมีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 37ผลงาน และได้รับรางวัลพิเศษการประกวดออกแบบบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ จำนวน 2 รางวัล ทั้งนี้ การจัดการประกวดดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลโดยกิจกรรมดังกล่าว กสอ.ร่วมมือกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุภัณฑ์จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “หลากหลายวัสดุบรรจุภัณฑ์”ซึ่งหมายถึงการใช้วัสดุในการผลิตที่เหมาะสม โดยอาจใช้เพียงวัสดุเดียวหรือวัสดุมากกว่า 1 ชนิดในการผลิตเพื่อตสนองวัตถุประสงค์ด้านต่าง ๆ ของการใช้งานบรรจุภัณฑ์ และจะต้องสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสม ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 250,000 บาทโดยแบ่งออกเป็น4 ประเภทรางวัล ได้แก่ 

1.ประเภทต้นแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่ายสำหรับสินค้าทั่วไปผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือ AssawaThaiChessออกแบบโดย นายปฏิรัตน์ ศรีผิวจันทร์ จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 

2.ประเภทต้นแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งสำหรับสินค้าทั่วไป ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือ “Jarong(Theceramicbowlsset)ออกแบบโดย นายชุติเทพ ใจดี และนายนิธิศเลาหรัตนาหิรัญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ

3.ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าสำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายแล้วในท้องตลาด มีผู้ประกอบการที่ได้รับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรจำนวน 10 รางวัล

4.ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งสำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายแล้วในท้องตลาดมีผู้ประกอบการที่ได้รับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรจำนวน 10 รางวัล

นอกจากการประกวดระดับประเทศแล้ว กสอ.ยังส่งเสริมให้เกิดการประกวดบรรจุภัณฑ์ระดับเอเชีย (AsiaStarและระดับโลก (WorldStarโดยเป็นการนำผลงานที่ได้รับรางวัลบรรจุภัณฑ์ไทยเข้าร่วมประกวด โดยรางวัลที่ได้รับแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

การประกวดบรรจุภัณฑ์ระดับโลก 2557 (WorldStar Student Awards 2014)มีผลงานที่ได้รับรางวัลจากประเทศไทย 1 รางวัล คือ นางสาววราภรณ์ หลักฐาน ชื่อผลงาน Elephant ในรางวัลประเภท“ผลงานที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการประกวด” (Certificate of Recognition)

สำหรับการประกวดบรรจุภัณฑ์ระดับเอเชีย 2557 (AsiaStar Awards 2014)มีผลงานจากประเทศไทยได้รับรางวัลจำนวน 16 รางวัล จากการส่งผลงานเข้าประกวด 23 ผลงาน โดยแบ่งออกตามประเภทของการส่งเข้าประกวดได้ดังนี้

1. ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย จำนวน 3 รางวัลจากการส่งเข้าประกวดจำนวน 5 ผลงาน

2. ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง จำนวน 1 รางวัลจากการส่งเข้าประกวดจำนวน 1 ผลงาน

3. ประเภทบรรจุภัณฑ์ระดับนักเรียน นักศึกษา จำนวน 12 รางวัล จากการส่งเข้าประกวดจำนวน 17 ผลงาน

ทั้งนี้  กสอ.กำหนดจัดพิธีมอบรางวัลการประกวดบรรจุภัณฑ์ไทย ประจำปี 2557-2558 และรางวัลการประกวดบรรจุภัณฑ์ระดับเอเชีย(AsiaStar Awards 2014)และรางวัลการประกวดบรรจุภัณฑ์ระดับโลก (WorldStarAwards2014)ขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ภายในงานโปรแพ็คเอเชีย 2015(PropakAsia2015)ซึ่งจัดขึ้นระหว่าวันที่ 17-20 มิถุนายน 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลประจำปี 2558 จะได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการประกวดออกแบบบรรจุภัณฑ์ในระดับเอเชีย (AsiaStarAwards2015) ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ กรุงอิสตันบูลสาธารณรัฐตุรกีและระดับโลก (WorldStarAwardsต่อไปอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนคิดเป็นเงินปีละ 6หมื่นล้านบาท (ที่มา: สำนักส่งเสริมธุรกิจบริการและโลจิสติกส์การค้ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) และเป็นศูนย์กลางการผลิตสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษของอาเซียน แต่เพื่อรักษามาตรฐานและสร้างการเติโตอย่างมีศักยภาพในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมมือกันพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางสาว วราภรณ์ หลักฐาน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เจ้าของผลงาน “Elephant” ผู้ได้รับรางวัลผลงานที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการประกวด(CertificateofRecognition)จากการประกวด WorldStarStudentAwards2014เปิดเผยว่า การส่งผลงานเข้าประกวดครั้งนี้ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ประจำภาควิชา ซึ่งชิ้นงานนี้ตั้งใจที่อยากสื่อออกมาให้เห็นถึงความเป็นไทยมากที่สุดแต่มีความทันสมัย จึงคิดว่าช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยน่าจะเหมาะสมที่สุด จึงหาผลิตภัณฑ์ช้างแล้วนำมาเป็นแนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์นี้ โดยดึงเอาความน่ารักของช้างออกมาเป็นจุดขาย ซึ่งการออกแบบนี้ตั้งใจให้ดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ โดยเป็นเซรามิรูช้าง เมื่อผู้บริโภคเห็นบรรจุภัณฑ์ก็ทราบทันทีว่าผลิตภัณฑ์ด้านในเป็นอะไร ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความโดดเด่นและสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 สำหรับวัสดุที่เลือกใช้เป็นกระดาษรีไซเคิลและใช้สีโทนเย็น เพื่อให้สอดรับกับการดีไซน์ตัวช้างให้มีความน่ารักดูแล้วสบายตา ทั้งนี้ก่อนที่จะได้รับรางวัลในการประกวด WorldStar Student Awards 2014ครั้งนี้ เคยได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 จากการประกวดบรรจุภัณฑ์ไทย ประจำปี 2556 ประเภทต้นแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย สำหรับสินค้าทั่วไปมาแล้ว สำหรับความรู้สึกที่ได้รับรางวัลระดับโลกนั้น ตนรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากเพราะไม่คิดว่าผลงานการออกแบบชิ้นเล็กๆชิ้นนี้จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยนำพาเอกลักษณ์ความเป็นไทยไปอวดสายตานานาชาติ อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่แนะนำโอกาสดีๆนี้ให้ และขอบคุณกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มองเห็นความตั้งใจ และมอบประสบการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ให้กับตน ซึ่งขณะนี้ตนก็กำลังมองหาแนวคิดต่อยอดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างจากบรรจุภัณฑ์แบบเดิมๆในท้องตลาด เพื่อสร้างพึงพอใจแก่ผู้บริโภคต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจขอรับบริการด้านบรรจุภัณฑ์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 2 ชั้น อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน ซอยตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถนนพระรามที่ 4แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2367 8181และสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมโครงการต่างๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ที่ www.dip.go.thหรือwww.facebook.com/dip.pr

###







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...