ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระทรวงอุตสาหกรรม รับลูก ครม. สั่งลุยยุทธศาสตร์ฮาลาล ผลักดันไทยเป็นผู้ผลิตส่งออกสินค้าและบริการฮาลาล ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 ของโลก ภายใน 5 ปี

กรุงเทพ 2 มิถุนายน 2558  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมฮาลาล โดยกำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจอุตสาหกรรมและบริการฮาลาล พ.ศ. 2559-2563 ภายใต้หลักการศาสนา รับรองวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) การเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนามาตรฐานและการตรวจรับรองฮาลาลยุทธศาสตร์ 2)การเสริมสร้างศักยภาพผลิตสินค้าและบริการฮาลาล 3)การพัฒนาศักยภาพการตลาดฮาลาลสู่สากล 4)การพัฒนาศักยภาพการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาลเพื่อสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ  โดยจะดำเนินโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว จำนวน 57 โครงการ คาดว่าจะสามารถยกระดับศักยภาพให้ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกได้ ภายใน 5 ปี ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป ซึ่งในส่วนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 60.93 ล้านบาท จากจำนวน 403.8 ล้านบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบใน“ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจสินค้าและบริการฮาลาล พ.ศ. 2559-2563” พร้อมแผนปฏิบัติงานภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยทั้งภาคการผลิตและภาคบริการในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าและบริการฮาลาลที่สำคัญ ระดับ 1 ใน 5 ของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยตลาดฮาลาลโลกถือเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก เนื่องจากจำนวนประชากรมุสลิมที่มีอยู่ถึงกว่า 1,700 ล้านคนในปัจจุบัน

นายจักรมณฑ์ กล่าวต่อว่า โดยยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานระยะ 5 ปีดังกล่าวจัดทำขึ้นภายใต้การกำกับของคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจและสินค้าฮาลาลแห่งชาติที่มีหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรทางศาสนา และสถาบันการศึกษา อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ  และ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยที่มีการกำหนดทิศทางการส่งเสริมและพัฒนาอย่างชัดเจนเป็นทางการจากรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อขยายส่วนแบ่งของประเทศไทยในตลาดฮาลาลโลกโดยเฉพาะทางด้านอาหารในกลุ่มประเทศ OIC ซึ่งในปี 2556 มีมูลค่าถึง 164,368 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ประเทศไทยได้ส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลไปยังภูมิภาคนั้นเพียง 5,112.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


ด้าน นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจสินค้าและบริการฮาลาล พ.ศ. 2559-2563 ว่า ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการสรรค์สร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลไทยให้มีมาตรฐานชั้นนำในตลาดฮาลาลโลก ภายใต้หลักการศาสนารับรองวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนามาตรฐานและการตรวจรับรองฮาลาล ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเสริมสร้างศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการฮาลาล  ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพการตลาดฮาลาลสู่สากล  และยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาศักยภาพการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ สำหรับแผนปฏิบัติงานภายใต้ยุทธศาสตร์ในภาพรวมจะให้ความสำคัญกับหลักการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้มีการทำงานที่ซ้ำซ้อน โดยคำนึงถึงภารกิจหลักและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่นำเสนอโครงการเป็นหลัก จำนวนโครงการตลอดระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2559-2563รวมทั้งสิ้น 57 โครงการ ในกรอบวงเงินงบประมาณ 7,903.671 ล้านบาท

นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงผลประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมฮาลาลด้านต่าง ๆ จากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์นี้ว่าประเทศไทยจะเป็นผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลอันดับ 1 ใน 5 ของโลก (จากปัจจุบันเป็นลำดับที่ 13) ประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการฮาลาลในกลุ่มอาเซียนมีจำนวนสถานประกอบการได้รับรองฮาลาลไม่ต่ำกว่า 2,500 กิจการใน 5 ปี  ผู้ประกอบการฮาลาลอื่น (ไม่รวมอาหาร) รวมทั้งบริการฮาลาล มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ใน 5 ปี  การตรวจรับรองฮาลาลแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน (จากเดิม 3 – 4 เดือน) นักวิทยาศาสตร์และผู้ตรวจประเมินฮาลาลได้รับการพัฒนา 2,750 คน มีการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฮาลาลไม่ต่ำกว่า 25 กลุ่มสินค้าใน 5 ปี (1 กลุ่ม ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ย่อย 5 – 10 รายการ) มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 250 ชิ้นงานใน 5 ปี เครื่องหมายมาตรฐานฮาลาลของไทย (Thailand Diamond Halal) ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นต้น โดยมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานฯ เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในงบประมาณปี 2559 กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับการจัดสรรงบประมาณรวม จำนวน 403.8 ล้านบาท โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับจัดสรร189.93 ล้านบาท แยกเป็นงบของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 60.93 ล้านบาทและงบของสถาบันอาหาร จำนวน 129 ล้านบาท

สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฮาลาลและประชาชนทั่วไป ที่สนใจพัฒนาศักยภาพและเข้าร่วมโครงการต่างๆภายต้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4426-7 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กรมส่งเสริมการค้าฯเผยโอมานห้ามนำเข้าไก่จาก 7 ประเทศ ชี้ไก่ไทยได้รับอานิสงค์จากความนิยมในคุณภาพ-มาตรฐานการผลิต ส่งออกไก่ภาพรวม 5 เดือนเพิ่มขึ้น 2.4 แสนตัน

นาง นันท วัลย์  ศกุนต นาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการเจาะตลาดเพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้าไทยตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริ กัล ยะ รมว.พาณิชย์ว่า  กระทรวงเกษตรและประมง ประเทศโอมานได้ออกประกาศมติรัฐมนตรีห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่แข็ง ไก่มีชีวิต จากประเทศเวียดนาม แคนาดา ตุรกี สหรัฐฯ  บูร์ กิ นาฟา โซ ไนเจอร์ และไนจีเรียจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกการห้ามนำเข้าอย่างเป็นทางการ  ​ ทั้งนี้ โอมานนำเข้าไก่สด จากทั่วโลก ในปี 57 มูลค่า 198.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  หรือ   ลดลง 12 %  เมื่อเทียบ ก่อน   โดย โอมานนำเข้า ไก่สดแช่แข็งจากไทยมูลค่า 16.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าปี 58 จะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ปีนี้ ไทยส่งออกไก่แช่แข็งไปโอมานแล้ว 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ​ สำหรับการส่ ง ออก ไก ่ สดแช ่ เย็น แช ่ แข็ง และแปรรูป ของไทยไปทั่วโลก   กรมฯตั้ง เป ้ าหมายการส ่ง ออกป ีนี้ ขยายตัว 5 %  คิดเป ็ นมูลค ่ าประมาณ   2,417 ล ้ านเหรียญสหรัฐ ฯ  ในช่วง 5 เดือนแรก ส่งออกไปแล้ว   957  ล้านเหร...

“STYLE” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่ครบครันที่สุดในภูมิภาค เปิดเวทีเจรจาการค้าการส่งออกดึงผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 60,000 ราย พร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับภูมิภาค

เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่กับ “STYLE” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่ครบครันที่สุดในภูมิภาค รวม 3 เทรดแฟร์ระดับประเทศ BIFF&BIL, BIG+BIH และ TIFF ไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกจัดโดย DITP ...