ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จับมือสถาบันอาหาร ยกระดับคลัสเตอร์ผลไม้แปรรูปชายฝั่งตะวันออก มอบเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม” มุ่งมาตรฐานส่งออก

 

รร.มณีจันท์รีสอร์ท จ.จันทบุรี/// กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีมอบโล่เกียรติคุณและเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม” หรือ ECF เพื่อการันตีคุณภาพมาตรฐานส่งออก มีผู้ประกอบการผ่านการคัดสรร 11 ราย รวม 16 ผลิตภัณฑ์    ทุเรียนแปรรูปมาแรงคว้าไป 8 ผลิตภัณฑ์ ที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์จาก กล้วยหอม ขนุน  มังคุด และลูกสำรอง หนุนสมาชิกคลัสเตอร์ผลไม้แปรรูปพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออก(ระยอง จันทบุรี และตราด) ให้พัฒนาตนเองทั้งด้านการผลิตและการตลาด มุ่งสร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ผลไม้คุณภาพและขยายช่องทางการจำหน่าย     เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ของสมาชิกให้แข่งขันกันพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้แก่สมาชิกคลัสเตอร์และเครือข่ายอย่างยั่งยืน ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 9

นางกานต์เปรมปรีดิ์ ชิตานนท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณและเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม” (East coast quality fruit products : ECF)ให้แก่ผู้ประกอบการ 11 ราย รวม 16 ผลิตภัณฑ์ ว่าการริเริ่มกิจกรรมคัดสรรผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม  นับเป็นก้าวเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ท้องถิ่นผลักดันสู่การเป็นพรีเมียมแบรนด์ สร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคว่าผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมทั้งเพื่อการบริโภคสดและแปรรูป ทั้งยังสามารถคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไว้ได้ โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และสละ จากจันทบุรี ระยอง และตราด

จากแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในการขยายตลาดเบื้องต้น พบว่าจังหวัดจันทบุรี มีมูลค่าการขายส่งผลไม้สูงถึง หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งหากรวมมูลค่าเพิ่มจากการทำตลาดแล้วจะสูงถึง แสนล้านบาท เนื่องจากจันทบุรีมีผลไม้เมืองร้อนเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลก รวมถึงมีพรมแดนติดกับกัมพูชา และมีปริมาณการค้าชายแดนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาผลผลิตด้านผลไม้ที่มีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร

กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพเพื่อเข้าสู่ซเปอร์คลัสเตอร์ และคลัสเตอร์เป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล   กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป พื้นที่จังหวัดจันทบุรี จึงเป็นการทำงานแนวบูรณาการที่ชัดเจน และน่าจะเกิดผลเชิงรูปธรรมแก่ภูมิภาคนี้ในโอกาสอันใกล้ เพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปคุณภาพสูงของภาคตะวันออกสามารถส่งออกไปทั่วโลก

นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ  ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่าพิธีมอบโล่เกียรติคุณและเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม” แก่ผู้ผ่านการคัดสรรในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพเพื่อเข้าสู่ซเปอร์คลัสเตอร์และคลัสเตอร์เป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล กลุ่มอุตสาหกรรม

เกษตรแปรรูป พื้นที่จังหวัดจันทบุรี ภายใต้โครงการเพิ่มผลิตภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เนื่องจากจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด อยู่ในพื้นที่อ้างอิงตามประกาศของ

 

 

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เรื่อง นโยบายส่งเสริมการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงด้านอุตสาหกรรมแปรรูปผลไม้ของไทย  เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน (Connectivity) ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ อาจนำไปสู่ความคิดใหม่ เกิดความร่วมมือ (Collaborationและพึ่งพากันและกันอันจะนำไปสู่ความเชื่อถือไว้วางใจ เกิดการแข่งขัน (Competition) ที่อยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือกัน เช่น ร่วมมือกันทำตลาด หรือซื้อวัตถุดิบ การพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ๆ เป็นต้น เกิดประสิทธิภาพโดยรวม (Collective Efficiency) พร้อมกับการเชื่อมโยงที่เป็นระบบในการถ่ายทอดความรู้ จะทำให้คลัสเตอร์มีประสิทธิภาพโดยรวมเหนือกว่าผู้ประกอบการที่ไม่มีการรวมตัวหรือรวมตัวกันเฉพาะในด้านธุรกิจการค้าเพียงอย่างเดียว    

คลัสเตอร์แปรรูปผลไม้คุณภาพชายฝั่งตะวันออก จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ได้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมาตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา  มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนแม่บทและแผนปฏิบัติการการพัฒนากลุ่ม   ในปัจจุบันมีสมาชิก 24 กิจการ มีทั้งวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่  มีการระดมความคิดเห็น จนเกิดเป็นกิจกรรมในวันนี้  เป้าหมายโดยรวมของโครงการก็เพื่อเพิ่มผลิตภาพ เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งไปสู่อุตสาหกรรมเพื่ออนาคต ตั้เป้าเพิ่มยอดขายในภาพรวมให้สมาชิกได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ จากปีที่ผ่านมา  กิจกรรมในวันนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รู้จักสินค้าคุณภาพ และกระตุ้นให้สมาชิกทุกรายมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยในการคัดสรรปี 2560 นี้ มีสมาชิกสนใจส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วม 53 ผลิตภัณฑ์ทั้งจากจันทบุรีและตราด โดยมีคุณภาพผ่านระดับดีเยี่ยม 16 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดระดับประเทศและส่งออก และส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในจันทบุรี 

นางอรวรรณ แก้วประกายแสงกูล รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าสถาบันอาหาร ในฐานะหน่วยงานร่วมดำเนินการ ได้ร่วมกับสมาชิกคลัสเตอร์ระดมความคิด กับผู้เชี่ยวชาญจากภาคมหาวิทยาลัย และวงการอาหาร  จัดทำแนวทางและหลักเกณฑ์การคัดสรรผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยมขึ้น  มีการกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติการรับสมัครผู้ส่งสินค้าเข้าคัดสรรต้องเป็นผู้ผลิต/ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ที่เป็นสมาชิกคลัสเตอร์กลุ่มแปรรูปผลไม้คุณภาพชายฝั่งตะวันออกที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด  โดยผลิตภัณฑ์ที่ส่งเข้าคัดสรร ต้องใช้วัตถุดิบหลักเป็นผลไม้หรือพืชท้องถิ่นคุณภาพดีที่มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในพื้นที่ กระบวนการผลิตสินค้าต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน หรือได้รับอนุญาตผลิตอาหารตามที่กฎหมายกำหนด  จำแนกผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งเข้ารับการพิจารณาคัดสรร เป็น 2กลุ่มใหญ่ คือ ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป  และเครื่องดื่มโดยใช้เกณฑ์การพิจารณาด้านการผลิต ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ด้านการตลาดและเรื่องเล่าผลิตภัณฑ์

การพิจารณาคัดสรรผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูประดับคุณภาพดีเยี่ยม ในปี 2560 นี้ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  จากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี สมาคมเชฟประเทศไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันอาหาร และผู้แทนจากสื่อสังคมออนไลน์ด้านอาหารเป็นต้น  

กิจกรรมคัดสรรผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพดีเยี่ยมเป็นการพยายามสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครูจัก และพยายามยกระดับผู้ประกอบการให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยผลการรับสมัครในปี 2560 นี้ มีผู้ประกอบการ 16 ราย ส่งสินค้าเข้าคัดสรรทั้งสิ้นจำนวน  53 ผลิตภัณฑ์  มีสินค้าที่ผ่านการคัดสรรว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

 

 

มาตรฐานระดับดีเยี่ยมจำนวน  16 ผลิตภัณฑ์ จากผู้ประกอบการรวม  11 ราย  ได้แก่  ทุเรียนหมอนทองอบกรอบตราแม่ลี้, ทุเรียนทอดตราป้าแกลบ, ทุเรียนกวน ทุเรียนสุกกรอบตราจ๊าบ, ทุเรียนฟรีซดรายตรา Fruitural, กล้วยหอมทองอบกรอบ ทุเรียนอบกรอบ ขนุนทองประเสริฐอบกรอบตราฟรุ๊ตคิง, ทุเรียนอบกรอบ ขนุนอบกรอบตรา KTV,  ทุเรียนอบกรอบ ฟรีซดราย ตราบีฟรุ๊ต, น้ำสำรองผสมดอกคำฝอย ตราต้นตำรับ, น้ำมังคุดสูตร Extra สูตร Balance ตรา Xanberry, น้ำมังคุดสูตร 33% ตราไทยสโนว์ และเนื้อลูกสำรองชนิดแห้งพร้อมชงดื่ม ตรา J House

โดยผู้ที่ได้รับการคัดสรร สามารถนำเครื่องหมาย “ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปคุณภาพระดับเยี่ยม” ไปติดที่ฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกเฉพาะของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรเท่านั้น มีอายุการนำไปใช้ในระยะเวลา 1 ปี โดยทางสถาบันอาหารจะนำเครื่องหมายดังกล่าวประชาสัมพันธ์สู่สื่อออนไลน์ในช่องทางต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้าต่างๆ และที่ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทยด้วย”



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...