ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกาลาดินเนอร์ เปิดตัว “Authentic Thai Food for the World” ส่งเสริมมาตรฐานอาหาร “รสไทยแท้” ไปทั่วโลก


รร.พลาซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ///สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมจัดงานกาลาดินเนอร์ “Authentic Thai Food for the World” เปิดตัวโครงการ “ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทยและและความเป็นเอกลักษณ์        ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม” พร้อมประชาสัมพันธ์เครื่องหมายมาตรฐานอาหาร“รสไทยแท้”         (Rod Thai Tae)  ห้องแกรนด์ฮอลล์ รร.พลาซ่าแอทธินี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2559 โดยนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาเป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 400 ท่าน  ประกอบด้วยคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ คณะรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงต่างๆ แขกผู้มีเกียรติระดับประเทศจากภาครัฐและเอกชน ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงอาหาร  โรงแรม  สายการบิน  สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานครั้งนี้

โครงการ “ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทยและและความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทย                     สู่ภาคอุตสาหกรรม” มีวัตถุประงค์เพื่อยกระดับภาคการผลิตและการบริการอุตสาหกรรมอาหารให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากลเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยยังคงความเป็นเอกลักษณ์อาหารไทย และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ     เป็นการสร้างมาตรฐานอาหารไทยโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านวิเคราะห์ทดสอบกลิ่นรสอาหารด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์มาเชื่อมโยงเข้ากับการทดสอบรสชาติโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการรับรองจะได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอาหาร “รสไทยแท้”(Rod Thai Tae)



นางอรรชกา  สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในพิธีเปิดงาน “Authentic Thai Food for the World” ที่จัดโดยสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า อุตสาหกรรมอาหารของไทยนับได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ มีมูลค่าการผลิต 1.64 ล้านล้านบาท ได้พัฒนาจากขั้นเริ่มต้นที่เป็นการแปรรูปสินค้าพืชผลเพื่อการส่งออก ไปสู่การใช้เทคนิคการผลิตที่ทันสมัย มีความมั่นคงทางด้านอาหาร และกลายเป็นผู้ผลิตอาหารสําหรับตลาดโลก เป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารสุทธิ(net export) อันดับที่ 5 ของโลก มีผู้ประกอบการทั้งสิ้น 110,000 ราย ทั้งนี้โครงสร้างต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร มีการใช้วัตถุดิบที่มาจากภายในประเทศคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 60 ของต้นทุนการผลิตรวม 

“โครงการ Authentic Thai Food for The World มีความคิดริเริ่มมาจากท่านนายกรัฐมนตรี อยากจะเห็นอาหารไทยมีรสชาติเป็นอาหารไทยแท้  จะช่วยส่งเสริมอาหารไทยทั้งภาคธุรกิจบริการอาหาร และภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้ก้าวไกลไปทั่วโลกพร้อมกัน หากมีการเชื่อมโยงและร่วมมือกันสร้างโอกาสให้ธุรกิจ      การนำเอาหลักการสากลด้านกระบวนการรับรองมาตรฐาน และหลักการทางวิทยาศาสตร์มารองรับ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างอัตลักษณ์อาหารไทย ให้ต่างชาติได้รับรู้ว่ารสชาติอาหารไทยที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร โดยใช้ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ผนวกกับด้านประสาทสัมผัสในการสร้างมาตรฐานให้อยู่ในช่วงค่าที่ยอมรับได้ เนื่องจากผู้บริโภคในแต่ละประเทศอาจจะมีรสนิยมในด้านรสชาติที่แตกต่างกันบ้าง   ก็สามารถนำไปปรับตามความต้องการได้ โดยยังคงอยู่ในช่วงมาตรฐานก็ไม่ถือว่าผิดกติกา 

นางอรรชกา กล่าวต่อว่า แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยต่อไปในอนาคต จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการส่งออก โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีบทบาทหลักในการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารให้มีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก รวมทั้งการยกระดับผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ กระบวนการผลิต และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนั้น ยังต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อป้อนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมพร้อมรองรับอุตสาหกรรม 4.0 การยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การส่งเสริมและรักษาภูมิปัญญาอาหารไทย  การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ และการสรางแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารไทให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก


นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันอาหาร จะดำเนินงานประสานการบูรณาการเพื่อทำงานขับเคลื่อนมาตรฐานรสไทยแท้ในการยกระดับอุตสาหกรรอาหารไทยนำเสนอต่อรัฐบาลตามลำดับต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับกระทรวงต่างๆ เพื่อจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานให้ครอบคลุมในทุกมิติของการส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทย และความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้น



อนึ่ง การจัดเลี้ยงอาหารไทยต้นแบบ 13 เมนู ในรูปแบบกาลาดินเนอร์ในงานวันนี้ แบ่งเป็นอาหารคาว 11 เมนู ได้แก่ ส้มตำไทย ผัดไทย กะเพราหมู ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำกุ้งน้ำข้น มัสมั่นไก่ สะเต๊ะไก่ ลาบหมู ต้มข่าไก่ พะแนงเนื้อ  แกงเขียวหวานไก่ และอาหารหวาน 2 เมนู ได้แก่  ทับทิมกรอบ และข้าวเหนียวมูนมะม่วงน้ำดอกไม้   ซึ่งเป็นเมนูนำร่องที่สถาบันอาหารได้ร่วมกำหนดสูตรกับผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารไทยในการปรุงและทดสอบโดยการชิมและดมกลิ่น หลังจากนั้นนำอาหารไปทดสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้เครื่อง Electronic nose และ Electronictongue  มาช่วยในการตรวจวัดคำนวณค่ากลิ่นรส และรสชาติค่าความเผ็ด ความเค็ม ความหวาน ความเปรี้ยว และอูมามิ  เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลใช้เป็นค่ามาตรฐานในการอ้างอิงจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้การรับรองมาตรฐานอาหารไทยให้กับผลิตภัณฑ์อาหารไทยที่ส่งออก  ตลอดจนเมนูอาหารที่ให้บริการในร้านอาหารไทยทั่วโลก



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...