ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กสอ. ผนึกสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ดันผู้ประกอบการไทยสู่ห่วงโซ่การผลิตฮ่องกง

กรุงเทพฯ 6 พฤษภาคม 2559  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC พร้อมเตรียมดันผู้ประกอบการไทยสู่เว็บไซต์ www.hktdc.com และสื่อประชาสัมพันธ์ของสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและอุตสาหกรรมไทยสู่กลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย เชื่อมโยงทางการค้า ตลอดจนเป็นห่วงโซ่การผลิตกับกลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีดัชนีความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยและฮ่องกงมีความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรมการค้ากันอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูล ปี 2558 มีรวมมูลค่าการส่งออกรวม 11,830.37 ล้านบาท   

ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ. ได้ดำเนินการในกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้าสู่อาเซียน ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ปีงบประมาณ 2558 และได้นำอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยไปจัดแสดงและทดสอบตลาดในงานแสดงสินค้า Hong Kong Fashion Week for Spring & Summer ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นกว่าร้อยละ 15-20 ทั้งนี้ จากการร่วมกิจกรรมดังกล่าว กสอ. ได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหารสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสทางการค้า ตลอดจนความเติบโตทางเศรษฐกิจและสนับสนุนการพัฒนาด้านธุรกิจร่วมกันระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง 

ดร.สมชาย กล่าวต่อว่า ล่าสุด กสอ. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง   หรือ HKTDC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง ซึ่งการร่วมมือดังกล่าวจะมีกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือจำนวนมาก อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านการค้า การจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการค้าร่วมกัน การจัดสัมมนาเพื่อพัฒนาความรู้ผู้ประกอบการ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าของฮ่องกงตลอดทั้งปี รวมถึงฮ่องกงยังเตรียมเผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบการและสินค้าไทยในเครือข่ายของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมไปเผยแพร่ใน "Thailand Featured Suppliers Zone” บนเว็บไซต์ www.hktdc.com รวมทั้งนิตยสารด้านผลิตภัณฑ์และโมบายแอพพลิเคชั่นของ HKTDC เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและอุตสาหกรรมไทยสู่กลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย เชื่อมโยงทางการค้ากับกลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีดัชนีความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก 



สำหรับในปีนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้นำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีตราสินค้าเป็นของตนเอง จำนวน 15 ราย จากกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น ประกอบด้วย อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ  นำสินค้าไปจัดแสดงในงาน Hong Kong Gift & Premium Fair 2016 ระหว่างวันที่ 27–30 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา โดยผลตอบรับของผลิตภัณฑ์ไทยที่นำไปจัดแสดงในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อชาวฮ่องกง (Buyer) เข้ามาเจรจาธุรกิจมากกว่า 120 ราย ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดยอดคำสั่งซื้อเข้ามาในอนาคตได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ประเทศไทยและฮ่องกงมีความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรมการค้ากันอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลปี 2558 มีมูลค่าการส่งออกรวม 11,830.37 ล้านบาท โดยสินค้าหลักไทยที่ส่งออกไปฮ่องกง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอก นาฬิกาและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ อื่น ๆ เป็นต้น (ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยต้องพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทั้งด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดฮ่องกงที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว รวมถึงพัฒนาด้านการแข่งขันด้านราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กสอ. มีโครงการและกิจกรรมส่งเสริมจำนวนมากกว่า  70 โครงการ อาทิ โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) โครงการยกระดับดาวเด่น SMEs ไทย (DIPStars) โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (MDICP) กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ SMEs ด้วยระบบดิจิทัล กิจกรรมสร้างเครือข่ายกลุ่มอุตสาหกรรม (Networking) โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เป็นต้น ดร.สมชาย กล่าวทิ้งท้าย

 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...