ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

67 บริษัทไทยรับตรา T Mark การันตีสินค้าคุณภาพระดับสากล


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ให้แก่ 67 องค์กรธุรกิจไทย เจ้าของสินค้าและบริการคุณภาพมาตรฐานสากล ณ ห้อง
บุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ วันที่ 18 กันยายน 2560 โดยได้รับเกียรติจากนายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธี เพื่อการันตีคุณภาพระดับสากลของสินค้าและบริการ หวังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ไทยในตลาดต่างประเทศ พร้อมสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าได้รับสินค้าและบริการคุณภาพสากลทำด้วยใจคนไทยอย่างแท้จริง

 

นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เวทีการค้าโลกในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมาก ผู้ประกอบการแต่ละประเทศต่างมีกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบและจุดขาย เพื่อ
กุมหัวใจของผู้บริโภคให้ได้ ซึ่งผู้บริโภคสมัยนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงยังสนใจเรื่องความรับผิดชอบขององค์กรธุรกิจที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ด้วยตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงจัดทำตราสัญลักษณ์ T Mark ขึ้นมา เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่า สินค้าและบริการที่ได้รับตราสัญลักษณ์นี้มาจากประเทศไทย มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลและเชื่อถือได้ เนื่องจากบริษัทที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ต้องมีมาตรฐานด้านต่างๆ ตรงตามเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการ ได้แก่ กระบวนการผลิต การใช้แรงงาน ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทจะต้องขอต่ออายุการใช้ตราสัญลักษณ์นี้ทุกๆ 3 ปี ดังนั้นจึงหมายความว่าจะต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากต้องมีการประเมินทุกๆ 3 ปี

“สินค้าและบริการไทยได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่แล้ว โดยกรมฯ พบว่า ตรา T Mark ช่วยให้ผู้บริโภคชาวต่างชาติตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะพวกเขามั่นใจว่าสินค้าและบริการเหล่านี้ผลิตอย่างพิถีพิถันในเมืองไทย และมีคุณภาพดี”

สำหรับปีนี้ มีบริษัทผ่านการคัดเลือกได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark รวมทั้งสิ้น 67 บริษัท แบ่งเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร 20 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก 14 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ 12 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น 2 บริษัท และกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป 19 บริษัท โดยบริษัทที่ได้รับตราสัญลักษณ์สามารถ
นำตราสัญลักษณ์ไปติดบนสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตราสินค้า และความน่าเชื่อถือในคุณภาพของสินค้าในกลุ่มผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่น อาทิ ได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในสื่อต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ ตลอดจนรับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจ และได้รับการพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เป็นลำดับแรก อาทิ การเข้าร่วมในงาน        T Mark Festival การประชาสัมพันธ์ในนิตยสารระดับโลก การร่วมสร้างศักยภาพด้านการสร้างแบรนด์และพัฒนาสินค้ากับกิจกรรม T Mark Training Series และเข้าร่วมกิจกรรม Road to Shanghai ให้คำปรึกษาวางแผนธุรกิจเพื่อบุกตลาดลักชัวรี่ในประเทศจีน เป็นต้น

ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ T Mark จัดทำโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อตอกย้ำจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์แก่สินค้าและบริการจากประเทศไทย ซึ่งมีคุณภาพที่ทั่วโลกไว้วางใจ (Trusted Quality) ในทุกมิติ ได้แก่ กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ใช้แรงงานอย่างเป็นธรรม (Fair Labour) การผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental Concern) มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) และที่สำคัญคือคุณภาพที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจลงมือ “ทำด้วย ใจ” ของผู้ประกอบการ (Heartmade Quality)

ในปี 2560 มีบริษัทผลิตสินค้าและบริการของไทยได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark รวม 763 บริษัท โดยมี 2 ประเภทหลัก คือ สินค้า ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหาร อุตสาหกรรมหนัก ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้าทั่วไป และธุรกิจบริการ ได้แก่ กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ การศึกษานานาชาติ และธุรกิจบริการรักษาพยาบาล


ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandtrustmark.com

 ****************************

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันอาหาร - OTAGAI Forum Association ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลหนุนเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น

นายบรรสาน  บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว   (แถวยืนที่  4  จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU)   ระหว่าง  นา ยยงวุฒิ   เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (แถวนั่งขวา)   และ Mr.Daisuke Matsushima, Joint CEO of Otagai Forum Association   (แถวนั่งซ้าย)  โดยมี ผู้แทนจาก  OTAGAI Forum Association  และ ผู้แทนจ ากสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ให้เกียรติร่วมงาน  ณ สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว   ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเร็วๆ นี้    เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้  OTAGAI  Project  ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งสองประเทศเกิดการพัฒนาธุรกิจ ระดับเอสเอ็มอี ใหม่ๆ   ในอนาคต

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...