ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สถาบัน NEA เดินหน้าจัดโครงการเด่นกว่า 10 โครงการ พัฒนากลุ่มฐานรากถึงต่อยอดสู่ตลาดดิจิทัล มุ่งนโยบายไทยแลนด์ 4.0


เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ณ ห้องฉลาดลบเลอสรรค์ กระทรวงพาณิชย์ นายสมเด็จ  สุสมบูรณ์ รองอธิบดี    กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาพรวมโครงการฝึกอบรมระหว่างเดือนสิงหาคม - กันยายน 2560 จัดโดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสถาบัน NEA ซึ่งมีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ จากกลุ่มฐานรากถึงผู้ประกอบการในการทำธุรกิจต่อยอดสู่การค้าแบบE-Commerce ได้แก่ เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน และผู้ที่มีความสนใจในการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยมีโครงการที่จัดอบรมจำนวน ๑๐ โครงการด้วยกัน ซึ่งแต่ละโครงการมีการจัดฝึกอบรมในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร พื้นที่เขตปริมณฑล และต่างจังหวัด

“สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสถาบัน NEA เป็นหน่วยงานกลางในการพัฒนาและสร้างผู้ประกอบการไทยจากระดับฐานรากจนถึงระดับสูง ให้ก้าวเข้าสู่การค้ายุคใหม่หรือยุคดิจิทัล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันให้เกิด Smart Entrepreneur และ Smart Farmer ตามนโยบาย Thailand 4.0 เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) ภายใต้ความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งภายหลังจากกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เปิดตัวสถาบันฯ เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2560 สถาบันฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างมาก ในระยะเวลา 7 เดือนมีผู้ผ่านการพัฒนาจากสถาบันฯ มากกว่า 12,000 ราย ส่งผลให้มีหน่วยงานแสดงความประสงค์เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกับสถาบันฯ มากกว่า 60 หน่วยงาน” นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ กล่าว


โครงการเด่นของสถาบัน NEA ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2560 นี้ ประกอบด้วย โครงการที่จัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โครงการในส่วนกลาง อาทิ โครงการสัมมนาเรื่อง “จับกระแสการค้า & การลงทุนยุค Thailand 4.0 The New Challenges for Business” จัดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรม        ฮอลิเดย์ อิน สุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ เป็นการจัดเสวนาที่มุ่งเน้นเรื่อง นวัตกรรมทางการค้าและการเงินในยุคปัจจุบัน โครงการฝึกอบรมเรื่อง “การบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ จัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมสัมมนา เดอะ คอนเนคชัน ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โครงการฝึกอบรม “เรียนรู้ เรียนลัด มุ่งการส่งออก (Express Exporter)” จัดขึ้นจำนวน 5 ครั้ง และโครงการเสริมสร้างความรู้พื้นฐานเศรษฐกิจยุคใหม่ จัดขึ้นจำนวน 5 ครั้ง

ด้านโครงการในส่วนภูมิภาค ได้แก่ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาครุ่นใหม่สู่การค้าออนไลน์ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 1 กันยายน 2560 ใน 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ อยุธยา และกาญจนบุรี หัวข้อสัมมนา “อยากเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ เริ่มได้อย่างไร” และโครงการพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์ผ่าน Social Media และ Website จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 29 กันยายน 2560 ใน ๓ จังหวัด จังหวัดละ 2 วัน ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก และพระนครศรีอยุธยา หัวข้อการอบรมคือ การค้าผ่าน Facebook , Line และ Website

โครงการที่ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรของสถาบัน ได้แก่ โครงการการสร้างภาคีเครือข่ายพันธมิตรของสถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ จัดขึ้น ณ สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สมาคม หอการค้า สภาอุตสาหกรรม พาณิชย์จังหวัด หรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อทำการประชุมและเสนอแนวทางในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรใหม่

การจัดสัมมนา "The 60th Bangkok Gems & Jewelry Fair 2017" ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2560 ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมสัมมนาในงานที่น่าสนใจแล้ว ยังมีกิจกรรม Export Clinic โดยมีผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศมาให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการ เพื่อเจาะลึกตลาดและสินค้า โอกาสของสินค้าในการบุกตลาดด้วย

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ โครงการพัฒนาธุรกิจสู่การค้าระหว่างประเทศ Passport to Global Challenge ซึ่งจะจัดขึ้นจำนวน 5 ครั้ง แต่ละครั้งจะทำการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 วัน มีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิเช่น Creative Age Marketing 4.0 และ Modern Business Model Canvas การจัดอบรมเทคนิคการถ่ายภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ จัดขึ้นจำนวน 6 ครั้ง มีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิเช่น การถ่ายภาพผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องสำอาง และการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์อาหารปรุงสำเร็จ เป็นต้น

ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของสถาบัน NEA สามารถทราบรายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ http://nea.ditp.go.th

 

* * * * * * * * *

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...