ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเพิ่มเติม “มาตรการช่วยเหลือชาวนา”


ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แจง ตามมติ ครม. พ.ย. 59 กับการปรับเพิ่มเติมมาตรการช่วยเหลือชาวนา โดยชาวนาได้ประโยชน์ทุกคนทั้งผู้ที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ข้าวเจ้า และข้าวปทุมธานี 1      หากเข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าวเปลือก ราคาข้าวดีเมื่อไหร่แล้วค่อยขาย รับเงินเพิ่มค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตันนอกจากนี้ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการและไม่ได้เข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกก็จะได้รับค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาท ต่อตันทุกคน

 

นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ให้มีการปรับเพิ่มเติมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559/60ในส่วนของโครงการชะลอการขายข้าวเปลือก โดยมีการขยายกลุ่มผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการจากเกษตรกรรายคน และสหกรณ์การเกษตร ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และขยายพื้นที่ดำเนินโครงการให้ครอบคลุมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิ (ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และ กข 15) ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ในทุกพื้นที่ โดยกำหนดวงเงินในสินเชื่อต่อตันข้าวเปลือก ความชื้นต้องไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปน ไม่เกินร้อยละ 2 สำหรับข้าวหอมมะลิชนิดสีได้ต้นข้าว 36 กรัม ขึ้นไป ตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 7,000 บาท และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ตันละ 7,800 บาท

 

นอกจากนี้ยังช่วยเหลือด้านเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อย ผู้ปลูกข้าวซึ่งประสบปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้ง 3 ชนิด ตันละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ไร่ละ 800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่,  ข้าวเจ้า ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ และข้าวปทุมธานี ไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่

 

รวมที่เกษตรกรได้รับ คือ ข้าวเปลือกข้าวหอมมะลิ 16,500 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้าหน้าปี 13,500 บาท ต่อตัน และข้าวเปลือกปทุมธานี ได้ 13,900 บาทต่อตัน

 

และทางเลือกในการชำระหนี้ของชาวนา หากครบกำหนด เดือนราคาข้าวในตลาดต่ำกว่าเงินกู้ ธ.ก.ส. ขยายเวลาชำระหนี้ให้อีก เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ชาวนาไม่ต้องรับผิดชอบส่วนต่าง อาทิเช่น เงินกู้ 9,500 บาทต่อตัน ราคาตลาด 8,000 บาทต่อตัน ก็ชำระหนี้เพียง 8,000 บาทต่อตัน โดยในส่วนต่าง 1,500 บาทต่อตัว ชาวนาไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนต่างนี้ และหากในระยะเวลาที่กำหนดในการชำระหนี้ราคาข้าวในตลาดสูงกว่าวงเงินกู้ ชาวนาสามารถแจ้ง ธ.ก.ส. แล้วเอาข้าวไปขาย ชาวนาสามารถรับส่วนต่างไปได้เลย 

ท้ายนี้ได้เน้นย้ำเพิ่มเติมว่าในกรณีเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วนำข้าวไปขายในตลาดแล้วก็ยังสามารถติดต่อรับเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวได้ที่ ธ.ก.ส.โดยชาวนาต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรตามฐานข้อมูล โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิต

โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพาณิชย์ สำนักงานเกษตร และ           ธ.ก.ส. ในจังหวัดของท่าน หรือสายด่วน 1569 

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระทรวงอุตฯ เร่งปูพรมพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ SMEs /OTOP ทั่วประเทศ ตลอดมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ  1  มีนาคม  2559 -  กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลเร่งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือ  SMEs  และ  OTOP  ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการกว่า 800 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตาก ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริม  SMEs  และ  OTOP  ของประเทศ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะภาครัฐที่ดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการ  SMEs  และ  OTOP  โดยตรง จึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งให้ความรู้การทำธุรกิจรอบด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเปิดตลาดในพื้นที่ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือมาตรการด้านการเงิน และการให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำก...

ด่วน!!! สถาบันอาหาร รับสมัครเอสเอ็มอีดูงานที่ญี่ปุ่น-จับคู่ธุรกิจในงานFoodex Japan 2016

สถาบันอาหาร   กระทรวงอุตสาหกรรม  เชิญชวน เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบ ธุรกิจแ ละอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภท เข้าร่วม กิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ระหว่างวันที่  6-12  มีนาคม  2559  เพื่อ สำรวจตลาด   และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าอาหารของชาวญี่ปุ่น   ศึกษาวัฒนธรรมการบริโภค   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น   พร้อมศึกษานวัตกรรมอาหาร  แนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ในงาน  Foodex Japan 2016   ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  มีผู้แสดงสินค้า  3,000  ราย  จาก  79   ประเทศ   และมีผู้เข้าชมงานราว  77,000  คน   จัดขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายปลีก   โดยผู้ประกอบการ ของไทย สามารถนำสินค้ามาร่วมจัดแสดง พร้อมพบปะและเจรจาธุรกิจ  Business Matching  กับผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใ จ นำเข้าผลิตภัณฑ์อาห า รของไทย ...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ Bangkok RHVAC และ Bangkok E&E 2017 ชูศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำของโลก

นางมาลี โชคลํ้าเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Bangkok E&E) ปี 2560 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันว่าจะใช้การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของทั้งสองอุตสาหกรรมของไทย ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล และในด้านนวัตกรรมสินค้าที่สอดรับกับบริบทโลกในปัจจุบัน      “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกในกลุ่มสินค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตและส่งออก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งใช้ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีขนาดของข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นมากทุกปี นอกจาก...